เมนูหน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

NASA มีโครงการใหม่ ให้เราส่งชื่อไปดาวอังคารกับ Mars Science Laboratory rover

จากครั้งที่แล้วที่ได้ส่งชื่อไปดวงจันทร์ คราวนี้ NASA มีโครงการใหม่ ให้เราส่งชื่อไปดาวอังคารกับ Mars Science Laboratory rover (หุ่นยนต์อวกาศสำรวจดาวอังคาร) งานนี้ก็ไม่พลาดอีกตามเคย ไปลงทะเบียนกันเลย


ลงชื่อได้ที่: http://mars9.jpl.nasa.gov/msl/participate/sendyourname/index.cfm
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://mars.jpl.nasa.gov/msl/


วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเข้ารหัสแบบ MD5 คืออะไร?

ถ้าพูดถึงวิธีในการรักษาปลอดภัยของข้อมูล ไม่ให้โดนล้วงไปอ่านง่ายๆ หลายคนจะนึกถึงวิธีเข้ารหัส จะเข้ารหัสยังไงก็ได้ ให้มันอ่านไม่รู้เรื่องเข้าไว้ เพื่อให้คนที่ขโมยข้อมูลไปนั้น ไม่สามารถอ่านได้อย่างง่ายดาย
การเข้ารหัส มันก็มีอยู่สารพัดวิธี สุดแล้วแต่ใครจะคิดได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่โบราณสุดๆ อย่าง Ceasar Cipher ไปจนถึงวิธีที่กำลังนิยมในปัจุบันอย่าง Key-encryption แต่ที่พูดถึงกันมากก็คือ MD5
Ronald Rivest คนคิด MD5 และหนึ่งในผู้ร่วมสร้าง RSA หน้าตาเป็นงี้แหละ

หลาย คนเข้าใจเกือบถูกว่า MD5 เป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสที่ดีวิธีหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่ทั้งหมดครับ โดยเนื้อแท้ของ MD5 นั้น มันไม่ใช่การเข้ารหัสข้อมูลเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น การนำ MD5 มาใช้เพียงเพื่อหวังว่าจะช่วยปกป้องข้อมูลของเราได้นั้น คงจะไม่ได้แล้วล่ะครับ

ถ้าพูดตามทฤษฏีก็คือ
MD5 เป็น Hashing Algorithm ครับ ไม่ใช่ Encryption

Hashing Algorithm หรือ Hashing Function นั้น เป็นลักษณะของการนำข้อมูลมาเข้าฟังก์ชันซักตัวนึง เพื่อให้ได้ค่าออกมาอีกค่าหนึ่ง

......แล้ว Hashing Function มันเอาไปเข้ารหัสไม่ได้หรือ?? huh.gif

ก็ แล้วแต่จะนำไปประยุกต์ใช้ครับ แต่ใน MD5 จะใช้ Hashing Function ในการสร้าง Digest ขึ้นมา เจ้า Digest เนี่ย จะเป็นข้อมูลที่มีความยาวคงที่ 128 bits ไม่ว่าข้อมูลจะมหาศาลซักเท่าใดก็ตาม ซึ่ง Digest ก็จะได้มาจากผลลัพธ์ของการนำข้อมูลของเรา ไปเข้า Hashing Function นี่แหละครับ

บางคนหัวใส(ไม่ใช่หัวล้าน) เอา Digest ไปย้อนกลับเข้า MD5 อีกครั้งนึง...หมดสิทธิ์ครับ เพราะ MD5 เป็นฟังก์ชันในลักษณะของ One-way Function เอาคำตอบย้อนกลับทำวิธีเดิมในลักษณะตรงกันข้าม หรือย้อนกลับเข้า Input อีกรอบ ก็ไม่ได้ค่าเดิมครับ tongue.gif

ข้อมูล 1 ตัว เมื่อนำไปผ่าน MD5 จะได้ Digest ขึ้นมา 1 ตัว เช่น
Thaiflashdev จะมี Digest เป็น 9e1afdaa0bac2ace1c692d711af10b6c
และถ้าลองเปลี่ยนข้อมูลซักนิดนึง ให้เป็น Thaiflashdef ก็จะได้ Digest เป็น a405441b6ed5edafcef1062cac13da33

จาก ตัวอย่างนี้จะเห็นว่า แม้ข้อมูลเปลี่ยนไปเพียงนิดเดียว Digest ที่ได้จาก MD5 นั้น จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากเลยทีเดียว ฉะนั้นถ้าจะหวังว่าเพิ่มข้อมูลไป 1 ตัวแล้วเพิ่มค่า Digest ขึ้นอีก 1 นี่หมดสิทธิคับ วิธีตื้นๆ นี้ใช้กับ MD5 ไม่ได้หรอกครับ แต่ด้วยความที่ MD5 มันเปิดเผยอัลกอริทึมนั้น เราสามารถหา Digest ได้โดย....เอ่อ ไม่บอกดีกว่าคับ (แค่นี้ก็ชี้โพรงแล้ว อิอิ)

เมื่อผู้ส่งมีข้อมูล และมี Digest ที่ได้จาก MD5 แล้วทำอะไรได้??
...ก็ส่งไปให้ผู้รับสิครับ จะเก็บไว้ทำไม ถามได้ เอ้อ dry.gif

คราว นี้พอผู้รับ รับข้อมูลมา ก็เอาข้อมูลที่ได้รับ(ไม่รวม Digest) ไปผ่าน MD5 เพื่อหา Digest อีกรอบ เสร็จแล้วก็เอา Digest ที่เพิ่งได้นี้ มาเทียบกับ Digest ที่ได้รับมาจากผู้ส่ง ถ้าตรงกัน แสดงว่าข้อมูลที่ได้รับถูกต้องครับ ไม่มีใครมาทะลึ่งแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น (หรือไม่มี error ระหว่างส่งข้อมูล ประมาณว่าบิต 0 กลายเป็นบิต 1) rolleyes.gif

จากลักษณะการรับส่ง ข้อมูลโดยมี MD5 มาช่วยรักษาความปลอดภัยนั้น จะเห็นว่า มันไม่ได้ปกปิดข้อมูลอะไรให้เราเลย MD5 เพียงแค่ช่วยในเรื่องของความถูกต้องของข้อมูลเท่านั้นเองครับ (Data Integrity)

เนื่องจากว่าในเรื่องของความปลอดภัยนั้น ต้องมีคุณสมบัติอยู่ 3 ตัวคือ
1. Secracy การปกปิดข้อมูล
2. Authentic การยืนยันตัวตนผู้ใช้ (การใช้พาสเวิร์ด เป็นเพียงแค่ Identifier ยังไม่ถึงขั้น Authentic นะครับ แต่ก็พอกล้อมแกล้มได้)
3. Integrity การคงสภาพข้อมูล

แต่ MD5 ช่วยได้แค่ข้อ 3 เท่านั้นเอง ดังนั้นเราต้องหาวิธีอื่นๆ มาเสริมอีก 2 ข้อที่เหลือครับ ซึ่งก็แล้วแต่ครับ ว่าอยากได้ความปลอดภัยระดับไหน

ใน การใช้งานจริง เท่าที่ผมเคยเห็น จะมีการใช้ Encryption เข้ามาช่วย เพื่อปกปิดตัวข้อมูล หรือปกปิดตัว Digest ครับ ไม่ให้มองเห็นและแก้ไขได้ครับ หรือถ้าใครชอบดาวน์โหลด มักจะเห็นว่าข้างๆ Link สำหรับดาวน์โหลดจะมีเขียนไว้ว่า MD5: ....แล้วตามด้วย Digest นะครับ นั่นแหละครับ เอาไว้ให้ผู้ใช้เอา Digest นี้ไปตรวจสอบว่าแฟ้มที่เราดาวน์โหลดไป มีข้อมูลถูกต้องหรือไม่ ตามวิธีที่ได้บอกไปข้างต้นนั่นแหละครับ

ว่าไป MD5 ก็ไม่ใช่จะไม่มีจุดบกพร่องนะคับ มีเหมือนกัน แต่ที่ผมจำได้ก็คือ มันสามารถเกิด Digest ซ้ำกันได้ครับ แต่โอกาสเกิดก็น้อยมากครับ คนทั่วไปอย่างเราคงไม่สนใจจุดนี้อยู่แล้วล่ะ (แต่ในระดับสูงแล้ว บกพร่องนิดเดียวก็ไม่ได้ครับ)

ทีมา : http://www.ez-admin.com/2009-03-11-11-12-48.html?func=view&catid=5&id=122

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

กูเกิลมาทำระบบปฏิบัติการแล้ว

หลังจากที่ปีที่แล้วกูเกิลได้ทำการปล่อยเบราเซอร์ ตัวแรกออกมาให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ลองใช้กัน เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมากมาย และบัดนี้กูเกิลกลับมาพร้อมกับ Google Chrome Operating System

โดยในบล็อกได้บอกไว้ว่าระบบปฏิบัติการนั้นจะเป็นโอเพ่นซอร์ส ที่มีเป้าหมายผู้ใช้อยู่บนเครื่องเน็ทบุค ตามแผนคือจะทำการเปิดซอร์สโค้ดช่วงหลังของปีนี้ ส่วนเน็ทบุคที่ใช้ระบบปฏิบัติการจะเริ่มให้เห็นได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2010

ตัวระบบปฏิบัติการนั้นจะเน้นที่ความเร็ว ความเรียบง่าย และความปลอดภัย โดยบอกว่าจะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ทได้ในไม่กี่วินาทีหลังจากเปิดเครื่อง เลยทีเดียว โดยระบบปฏิบัติการจะมีหน้าตาเข้าใจง่ายเช่นเดียวกับตัวโครมที่เป็นเบราเซอร์ และทางกูเกิลยังได้ทำการออกแบบสถาปัตยกรรมทางด้านความปลอดภัยใหม่ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัลแวร์ ไวรัส หรือแพทช์อัพเดทอุดช่องโหว่ใดๆ

ตัวระบบปฏิบัติการนั้นรองรับทั้ง X86 และ ARM แต่จุดประสงค์ของ Chrome OS นั้นแตกต่างจากแอนดรอยด์อยู่พอควร เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของแอนดรอยด์คือตั้งแต่มือถือไปจนถึงเน็ทบุค แต่กลุ่มเป้าหมายของ Chrome OS นั้นอยู่ที่เน็ทบุคขนาดเล็กไปจนถึงเครื่องตั้งโต๊ะที่มีผู้ใช้แต่ละวันใช้ เวลากับการทำงานต่างๆบนอินเทอร์เน็ท แน่นอนว่ามีจุดที่ทับซ้อนกันอยู่ระหว่างสองระบบนี้ และทางกูเกิลหวังว่านวัตกรรมจะผลักดันตัวเลือกที่ดีที่สุดในส่วนที่ทับซ้อน กันนี้แก่ทุกคน รวมถึงตัวกูเกิลเองด้วย

ที่มา - Official Google Blog

นอกเรื่องนิด - ช่วงนี้หวัดระบาดรุนแรงมากทั้งหวัดธรรมดา และหวัดพันธุ์ใหม่ (ไม่อยากเรียกว่า 2009 เท่าใหร่) แต่ไม่ว่าจะหวัดชนิดใดตอนนี้ก็ระบาดเยอะทั้งคู่ ระมัดระวังตัวด้วยนะครับ ผู้เขียนเองก็หวัดกินไปแล้ว ขอให้ผู้อ่านสุขภาพแข็งแรงครับ

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Unix เบื้องต้น

1. Unix
เป็นโปรแกรมจัดการระบบงาน (Operating system) ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบหนึ่ง ได้รับการออกแบบโดยห้องปฏิบัติการเบลล์ของบริษัท AT&T ในปี คศ. 1969 ถึงแม้ว่าระบบ Unix จะคิดค้นมานานแล้ว แต่ยังเป็นที่นิยมใช้กันมากมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะระบบ พื้นฐานของอินเตอร์เนต เนื่องจากมีความคล่องตัวสูง ตลอดจนสามารถใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์หลายชนิด นอกจากนั้น Unix ยังเป็นระบบ ใช้ในลักษณะผู้ใช้ร่วมกันหลายคน (Mutiuser) และงานหลายงานในขณะเดียวกัน (Mutitasking) ผู้ใช้สามารถดัดแปลง หรือเพิ่มคำสั่งใน Unix ด้วยตนเองเพื่อความสะดวกได้ ในปัจจุบันพบว่าระบบ Unix ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องที่มีขนาดใหญ่ราคาแพง เช่น SunOS IBM AIX HP เนื่องจากได้มีกลุ่มคิดค้นระบบ Unix ที่สามารถใช้กับเครื่อง PC 486 ธรรมดา เราเรียกระบบปฏิบัติการนี้ว่า Linux เขียนได้ใช้ระบบดังกล่าวเป็นระบบหลักในการศึกษาและเขียนเป็นตำราใน http://passkorn.hypermart.net

2. Unix Kernel
Kernel เป็นส่วนของ Unix ที่ทำหน้าที่จัดการ Hardware ต่างๆของคอมพิวเตอร์ เช่น จอภาพ แป้นพิมพ์ CPU เครื่องพิมพ์ CD ROM ฯลฯ
ในปัจจุบันจะพบว่ามี Unix Kernel Programes ผลิตออกมาหลายบริษัทด้วยกัน เช่น Unix System V , BSD Unix ฯลฯ

3.Shell

โดยปกติผู้ใช้จะไม่สามารถติดต่อหรือใช้ Unix Kernel โดยตรง แต่จะมี software ที่เป็นตัวตีความหมายคำสั่งของผู้ใช้ให้กับ Unix Kernael อีกทีหนึ่ง ดังภาพ

Software ที่ทำหน้าที่นี้เรียกโดยทั่วไปว่า "Shell" เช่นกันก็จะมีผู้ผลิต Shell ขึ้มาอย่างมากมาย แต่ที่นิยมใช้งานมากที่สุดคือ "Bourne Shell" ซึ่งถูกเรียกตามผู้คิด คนแรกก็คือ Steven Bourne จะสามารถสังเกตได้โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใน Bourne Shell จะมี "พร้อม" (prompt) เป็น $ "C shell" เป็น shell ที่นิยมใช้กันมากเช่นกัน โดยผู้เขียนคนแรก ก็คือ Bill Joy (เป็นคนเขียน vi บนยูนิกซ์ด้วยเช่นกัน) ปัจจุบัน Bill Joy ทำงาน ให้กับบริษัท Sun Microsystems (เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทคนหนึ่งด้วย) "C shell" จะมีเครื่องหมาย prompt เป็น % และยังมี "Korn shell" มี prompt เป็น $ Korn shell เป็นการนำเอาข้อดีของ Bourne และ C shell มารวมกัน ถ้าจะเข้าสู่ C shell ให้พิมพ์ csh ถ้าจะเข้าสู่ Korn shell ให้พิมพ์ ksh ส่วนใหญ่เมื่อผู้ใช้ login ระบบเข้ามามักจะเป็น Bourne

ที่มา : http://www.thaiwbi.com/course/unix/index2.html

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เมื่อไมโครซอฟท์เปิดเทคโนโลยีเคอร์เนลให้มาสอนเด็กมหาวิทยาลัย

ทางบริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้เป็นเจ้าภาพส่งผมและอาจารย์หลายท่านจากมหาวิทยาลัยไทยไปเข้างานสัมมนาและ อบรม 2009 Asia Pacific Windows Core Workshop ระหว่างวันที่ 11-13 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา งานนี้จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง โดยมีไมโครซอฟท์รีเสิร์ชแล็บที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพร่วมกับทางมหาวิทยาลัย ปักกิ่ง งานนี้เขาพาไปสอนการทำงานของวินโดวส์เคอร์แนล และแจกซอร์สมาให้ลองศึกษาเล่นเพื่อสอนเด็กมหาวิทยาลัยไทยครับ สุดยอดมาก

การที่มีการสัมมนานี้เกิดจากทางไมโครซอฟท์พบว่าการเรียนการสอนด้านระบบ ปฏิบัติการทั้งโลก ถ้าลงลึกแล้วสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่จะใช้ยูนิกซ์หรือลีนุกซ์เป็นหลัก เนื่องจากการที่เราจะศึกษาระบบปฏิบัติการให้ลึกแบบนักชีววิทยาเขาผ่ากบนั้น ต้องมีซอร์สโค้ด ทางยูนิกซ์ก็มีซอร์สของบีเอสดี (BSD) ให้เล่น ส่วนลีนุกซ์นั้นหายห่วงมีทุกอย่างให้แกะดูได้หมด ทางไมโครซอฟท์เลยลำบากรับคนมาทีได้แต่คนเล่นลีนุกซ์เสียหมด ดังนั้นทางไมโครซอฟท์รีเสิร์ชเอเชีย (MSRA) จึงได้ขอให้ทีมทางระบบปฏิบัติการจัดทำชุดซอฟต์แวร์สำหรับการเรียนการสอนวิชา ระบบปฏิบัติการขึ้น ประกอบด้วย หนึ่ง WRK (Windows Research Kernel) ซึ่งเป็นซอร์สของเคอร์เนลวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 ที่แก้ไข คอมไพล์ แล้วรันได้จริงๆ (จริงนะครับ ลองทำมากับมือ) สอง CRK (Curriculum Resources Kit) ซึ่งเป็นเอกสารและเพาเวอร์พอยต์กองใหญ่ที่อธิบายเรื่องการออกแบบและการทำงาน ภายในของวินโดวส์เอ็นที สาม Project OZ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะใช้ศึกษาระบบปฏิบัติการในโหมดของยูสเซอร์โดยไม่ต้อง ไปแก้เคอร์เนล ของเหล่านี้อยากจะกระตุ้นให้บรรจาอาจารย์ทั้งหลายเอาเรื่องวินโดวส์ไปสอน เด็กมากขึ้น ดูแล้วน่าเล่นมากเลยครับ

พอฝ่าอากาศหนาว (ราว 8 องศา) ในปักกิ่งไปถึงงานสัมมนา โดยสถานที่จัดอยู่ที่ห้องคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นส่วนใหญ่ เขาก็เริ่มโดยให้ คุณเดฟ โปรเบิร์ต (Dave Probert) ซึ่งเป็น Kernel Architect จาก Windows Core Operating System Division มาเล่าให้ฟังเรื่องสถาปัตยกรรมของวินโดวส์ ท่านเดฟนี่ระดับเทพเรื่องระบบปฏิบัติการเลยครับ ไม่เชื่อลองดูหนังสือระบบปฏิบัติการแสนฮิต Operating System Principles 7th Edition ของ Silberschatz ที่ใช้กันมากมายในเมืองไทยสิครับ ในบทกิติกรรมประกาศตอนต้นหนังสือบอกเลยว่าบทที่ 22 ที่ว่าด้วยวินโดวส์เอ็กซ์พีนั้นเอามาจากเอกสารที่ท่านเดฟเขียนเอาไว้ครับ ท่านเดฟก็มาเล่าให้ฟังวินโดวส์เอ็นที นั้นเกิดมาจาก VMS นะครับ ดังนั้นหลักการออกแบบจะไม่เหมือนยูนิกซ์ ท่านร่ายยาวว่า ยูนิกซ์นั้นออกแบบมาในยุค 1970 กว่าๆ ที่ ซีพียูช้า แรมน้อย ดิสก์เล็ก เทคนิคที่ดีในสมัยนั้นไม่ใช่ว่าจะดีในสมัยนี้แล้วเพราะไปพยายามแก้ปัญหาที่ ไม่ใช่ปัญหาในระบบสมัยนี้ ท่านยังแซวว่าคนที่เรียนเรื่องระบบจากยูนิกซ์ชอบคิดว่าแนวคิดที่พ้นสมัย บางอย่างนั้นเป็นของเลอเลิศโดยไม่รู้เหตุผลเบื้องหลังเลย ส่วนวินโดวส์เอ็นทีนั้นใช้สมมุติฐานการออกแบบมาจากระบบราวปี 1990 คล้ายๆ กับเครื่องยุคปัจจุบัน เดฟยกตัวอย่างของการที่วินโดวส์เอ็นทีคุมการระบุชื่อออปเจค์โดยออปเจคเม เนจอร์ โดยไม่ผูกกับระบบไฟล์เหมือนยูนิกซ์ ทำให้วินโดวส์มีแนวโน้มจะทำพวกไคล์เอนต์แบบไร้ดิสก์ได้ดีกว่าอย่างไร

ผมว่าเวลาสองสามชั่วโมงที่ฟังท่านเดฟเล่าเรื่องวินโดวส์ เหมือนไปขึ้นเขาบู็ตึงฝึกมวยไท้เก๊กกับปรมาจารย์จางซานฟง ยังไงยังงั้น คือ ผมว่างานนี้คนฟังถ้าไม่สำเร็จยุทธก็จะกระอักเลือดฟุบคาโต๊ะแน่นอน โชคดีที่ผมทำงานด้านระบบปฏิบัติการและสอนมาสิบกว่าปี เลยรอดลงเขามาได้ครับ

ตอนกินข้าวโชคดี ทางท่านเดฟมานั่งกับเราชาวไทยแถมนั่งติดกับผม เดฟเล่าให้ฟังว่าตอนนี้เขากำลังออกแบบวินโดวส์ 8 และวินโดวส์ 9 อยู่ และท่านเดฟบอกผมว่าตอนนี้ด้านระบบปฏิบัติการแล้วกำลังน่าสนใจมาก เพราะฮาร์ดแวร์มีการเปลี่ยนแปลงมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องมัลติคอร์ การเป็นไฮบริดคอมพิวติ้ง (คือการเอาฮาร์ดแวร์อื่นเช่น การ์ดแสดงผลมาทำงานร่วมประสานกับซีพียู) ทำให้เราต้องคิดออกแบบด้วยหลักการใหม่ๆ ที่จริงท่านท้าในห้องให้พวกเราฉีกตำราทิ้งแล้วถามตัวเองว่าระบบปฏิบัติการ แห่งอนาคตสำหรับปี 2010 กว่าๆ น่าจะเป็นอย่างไร

ภาคบ่าย หลังอิ่มมาท่านเดฟก็ร่ายต่ออย่างรวดเร็วจนจบ ตามด้วยทางทีมมาสอนแล็บ ผมว่าดีมากและน่าตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด ทางทีมไมโครซอฟท์มีคุณอาร์คาดี้ รีติกค์ (Arkady Retik) มาพูดคร่าวๆเรื่องการใช้ WRK/CRK ที่ให้และแจกแผ่นซีดีด้วย จากนั้นคุณเซอร์เก ลิดิน (Serge Lidin) มาสอนแลป หลักการคือ ทางไมโครซอฟท์จะแจกเวอร์ช่วลพีซี 2007 (Vistual PC 2007) และเวอร์ชวลแมชีนของวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 ที่สามารถใช้งานได้ในเวอร์ชวลพีซีมาให้ เราสามารถจะใช้ Visual Studio Express 2005 ที่ลงไว้คอมไพล์และสร้างเคอร์เนลใหม่จากซอร์สที่ให้มาได้

การคอมไพล์เคอร์เนลก็ง่ายและเร็วมากเลยครับ ใช้เวลาไม่กี่นาทีเอง พอได้เคอร์เนลวินโดวส์เป็น DLL แล้ว ก็เอาไปลงใน C:\Windows\System32 ของวินโดวส์ที่รันในเวอร์ช่วลแมชีน หลังจากนั้นก็แก้ Boot Profile อีกหน่อย พอสั่งรีบูทเราสามารถเลือกเคอร์เนลเราได้ทันที เท่มาก ที่เด็ดกว่านั้นคือ เคอร์เนลที่ให้มีดีบักโหมด เราสามารถบอกเวอร์ชวลพีซีให้รอการเชื่อมต่อจากดีบักเกอร์ภายนอกได้ ทำให้เราใช้ดีบักเกอร์ windbg เชื่อมกับเคอร์เนลแล้วหยุดหรือ single step เคอร์เนลในเวอร์ชวลแมชีนได้ แค่นี้ผมก็ตาโตเท่าไข่ห่านแล้วครับ

สำหรับวันที่สอง ตอนเช้าเป็นการให้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยในจีนและเกาหลีมาเล่าให้ฟังเรื่อง การนำ WRK/CRK ไปสอน ผมว่าเขาลงลึกกว่าเรามาก เขาใช้ TA มากกว่าเราทำให้อาจารย์หนึ่งคนสอนเด็กได้มากกว่าเรามาก ตอนบ่ายก็มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยซินหัว กับ เป่ยหัง มาสอนให้ฟังเรื่องการสร้างซิสเต็มคอลล์ใหม่ในวินโดวส์ว่าทำได้อย่างไร ทำประเดี๋ยวก็ได้เลยครับ ยอดมาก

วันสุดท้าย เป็นการไปเยี่ยมไมโครซอฟท์รีเสิร์ชแล็บที่ปักกิ่ง เข้าไปที่ห้องสาธิตเขาก็แสดงของใหม่ๆ สองสามอย่าง คนก็ไปมุงโต๊ะไมโครซอฟท์เซอร์เฟสกันใหญ่ ผมกับรุ่นน้องแอบค่อนแคะว่าเป็นไอพอดทัชขนาดเท่าโต๊ะนั่นเอง แต่ก็สวยดีนะครับ เขาก็มาแสดงงานใหม่ๆ เช่น ฟีเจอร์ใหม่ๆใน ไมโครซอฟท์เวอร์ชวลเอิร์ธ เป็นต้น บ่ายๆ งานหมดแล้ว ทั้งทีมเลยไปดูวังต้องห้ามกัน หนาวมากๆ เลยแต่สวย ดูแล้วแปลกดี เช้าดูของไฮเทค บ่ายดูของโบราณ แต่ทั้งคู่ก็แสดงให้เราเห็นความยิ่งใหญ่ของจีนครับ

งานนี้ต้องขอบคุณทางไมโครซอฟท์ประเทศไทยที่ทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตา ได้แผ่นเพาเวอร์พ้อยต์มาสอนหนังสือเทอมหน้าโดยไม่ต้องเตรียม ขอขอบคุณคุณศิริพรและคุณกิจจาที่ทำตัวเป็นเจ้าภาพที่น่ารักตลอดงาน และทำให้พวกเราได้กินเป็ดปักกิ่งเจ้าเก่าที่ดังที่สุดและอร่อยประทับใจทุกคน ครับ (ตัวที่ล้านกว่าแล้วที่เขาย่างขายมาราวร้อยกว่าปี) อาจารย์ท่านใดสนใจก็สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปทางไมโครซอฟท์ประเทศไทย ได้นะครับ

ที่มา : http://www.blognone.com/node/11036

ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสให้คอมพิวเตอร์ด้วย Panda USB Vaccine

Panda USB Vaccine เป็นโซลูชันการออกแบบมาเพื่อป้องกันการคุกคามไว้รัส
นี้มันมีสองชั้นป้องกันการคุ้มครองให้ผู้ใช้ในการปิดการใช้งานคุณสมบัติ
อัตโนมัติในคอมพิวเตอร์รวมทั้งในยูเอสบีไดร์ฟและอุปกรณ์อื่นๆ

Vaccine for computers : นี่คือ 'วัคซีน' สำหรับคอมพิวเตอร์เพื่อป้องกันการอัตโนมัติจากแฟ้มทำงานไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท
(เมมโมรี่สติ๊กซีดีเป็นต้น) เป็นไวรัสหรือไม่ใช้.

Vaccine for USB devices : นี่คือ 'วัคซีน' เพื่อถอดอุปกรณ์ USB,
ป้องกันการทำงานอัตโนมัติของแฟ้มจากการเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อเครื่องมือปิดการใช้งานไฟล์นี้ดังนั้นจึงไม่สามารถอ่านแก้ไขหรือแทนที่ด้วยรหัสที่เป็นอันตราย
ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากไม่มีวิธีง่ายๆของการปิดใช้งานคุณลักษณะ อัตโนมัติใน Windows.
ที่ให้ผู้ใช้ที่มีวิธีง่ายๆในการปิดใช้งานคุณลักษณะนี้ให้สูงระดับการ ป้องกันการติดเชื้อจากไดรฟ์ที่ถอดออกได้และอุปกรณ์.

Download Freeware : http://www.pandasecurity.com/homeusers/downloads/usbvaccine/

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ แล้วไปทำอะไรได้บ้าง

การสำเร็จการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์นั้น ไม่จำเป็นว่าตองทำงานด้านคอมพิวเตอร์ แต่ทำอะไรก็ได้ที่ใจรัก บางคนอยู่กับบ้านก็ทำงานได้ คือทำอาชีพอิสระไป หรือรับเขียนโปรแกรมอยู่กับบ้านก็ยังมี หรือจะเปิดร้าน Internet cafe ก็ยังมีกันมากมาย .. สรุปว่าจบคอมพิวเตอร์แล้ว มีอาชีพรองรับมากมาย หลายอาชีพไม่ต้องทำคอมพิวเตอร์เป็นก็ยังได้ เช่น เลขาฯ หรือธุรการเป็นต้น ขอพิมพ์ word เป็นก็ ok แล้ว
    อาชีพของนักคอมพิวเตอร์
    แบบที่ 1 : เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์, Programmer, System Analyst, IT Director, CIO
    แบบที่ 2 : ดูแลระบบบริการ ความปลอดภัย เครือข่าย หรือ Hardware Maintenance
    แบบที่ 3 : เปิดร้าน Internet หรือร้านขายคอมพิวเตอร์
    แบบที่ 4 : Graphic Creator, Special Effect หรือ Multimedia
    แบบที่ 5 : ครู อาจารย์ หรือติวเตอร์
    แบบที่ 6 : ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต เช่น e-Commerce, e-Learning, e-Service

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Google AdSense คืออะไร

Google AdSense คือบริการจาก Google ที่ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ สามารถหารายได้โดยการนำ Code ที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ของตนเอง ซึ่ง Code นั้นจะเป็น โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้น

โฆษณาที่ส่งมาจาก Google นั้น ๆ มีทั้งแบบ Text ,รูปภาพ และมีหลายขนาด ให้คุณได้เลือก นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรูปแบบสีได้ตามความต้องการ เพื่อความเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ
แล้วโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากไหน ??? หลายคงอาจสงสัย โฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากการทำ Google Adwords ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่ให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ โฆษณาสินค้าของตนเอง ผ่าน Search Engine ของ google รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่นำ Google Adsense ไปติด เพื่อให้โฆษณาของตนเองอยู่ในตำแหน่งที่เด่น (เมื่อ Search ใน Google) กว่าข้อมูลอื่นที่ได้ผลลัพท์จากการค้นหา

รายได้จาก Google AdSense จะเกิดตอนไหนจะมีอยู่ 2 กรณีครับคือ
• จ่ายเมื่อคลิก (Pay Per Click)เมื่อคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ คลิกที่โฆษณาของ Google AdSense ซึ่งแต่ละคลิกจะได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้ที่ทำ Google Adwords จ่ายให้ Google มากน้อยเท่าไร ถ้าจ่ายให้มากคุณก็จะได้มากด้วยเช่นกัน
• จ่ายเมื่อแสดงโฆษณา (Pay Per Impression)อันนี้จะจ่ายให้คุณเมื่อมีการแสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง โดยไม่นับว่าจะมีคนคลิกกี่ครั้งก็ตาม คุณจะไม่ได้รายได้จากการคลิก

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2552

SSH server มาแล้วจ้า

มีอะไรมาให้เล่นกันอีกแล้วนะครับ จะว่าไปหลายๆคนน่าจะเคย remote login เข้าไปเครื่อง com เครื่องอื่นเพื่อทำงานอะไรกันมั่งล่ะน่า ซึ่งการที่เราจะ remote login ไปเครื่องอื่นได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงจะใช้วิธี telnet เข้าไป ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าที่ควรเพราะ username กับ password และอื่นๆ จะถูกส่งเป็น plain text ทีนี้ก็ hack กันกระจายเลยล่ะขอบอก ตอนหลังก็เลยมีคนคิดการ remote login แบบเข้ารหัสขึ้นมา (ssh) ซึ่งเครื่องที่เปิดให้เครื่องอื่น remote login เข้ามาได้ จะถือว่าเป็น ssh server ซึ่งถ้าเพื่อนๆ want ที่จะให้เครื่อง ubuntu ตัวน้อยๆของเราถูก remote login เข้ามาใช้งานได้ก็ไม่ยากครับ ต้องลง package เพิ่มเติมกันนิดหน่อย
มาทำกันเลยม่ะ

step 1: sudo aptitude install openssh-server > ติดตั้ง package สำหรับทำเครื่องเราให้เป็น ssh-server

step 2: sudo cp /etc/ssh/sshd_config /etc/ssh/sshd_config.original > copy ไฟล์ config เก็บไว้ก่อนกันเหนียว

step 3: sudo chmod 555 /etc/ssh/sshd_config.original > ลงยันต์กันเหนียวให้ไม่ให้ใครมา write เล่น

step 4: sudo gedit /etc/ssh/sshd_config > เปิดไฟล์ config ขึ้นมาแก้อ่ะครับ

เนื้อหาข้างในก็จะประมาณนี้ครับ

Port 22 > หมายความว่ามันใช้ port เบอร์ 22 ในการ ssh (ถ้าเกิดอยากจะ secure ก็แก้ port เป็นเบอร์อื่นซะก็จะช่วยหลอกล่อ hacker ได้ระดับนึง)
PermitRootLogin yes > ถ้าไม่ต้องการให้ root สามารถ ssh เข้ามาได้ก็ตอบ no ซะ (เคยลองไม่ใส่ no แต่ใช้เป็นใส่ # หน้าบรรทัดแทน ปรากฎว่าไม่ workนะครับ ต้องใส่ no เท่านั้นถึงจะปิดการ ssh ของ root ได้อ่ะ)
PermitEmptyPasswords no > ถ้ายอมให้ user สามารถ login แบบไม่ต้องใส่ password ได้แก้เป็น yes ซะ (ของจริงผมลองเป็น yes มันก็ยังจะให้กรอก password อีกซะงั้น เซ็งเลยตู - -" )
#Banner /etc/issue.net > บรรทัดนี้ให้เอา # ออกซะถ้าต้องการให้มันขึ้น banner เตือน เวลา user เข้ามา login เช่น "Hey! login har papa khun lher" (คำที่เราต้องการให้มันขึ้น show เวลา user กะลัง login ให้ใส่ไว้ใน /etc/issue.net ครับ เคยใส่ภาษาไทยลงไปมันม่ะ work อ่ะ ต้อง english)
* banner มันจะขึ้นเตือนหลังจากกรอก username ไปแล้วนะ
step 5: แก้เสร็จก็ save ซะอย่าได้รอรี
step 6: sudo chmod 555 /etc/ssh/sshd_config > ป้องกันใครมา write ไฟล์เล่น
step 7: sudo /etc/init.d/ssh restart > restart service สักรอบ ไม่ restart มันจะจำค่า config เดิมนะบอกไว้ก่อน

* ปล. จริงๆแล้ว มันสามารถตรวจสอบ public key จาก user ก่อนถึงจะ login ได้ด้วยนะ แต่ติดไว้ก่อนนะขี้เกียจ แบบว่ายังไม่ได้ลอง function นี้อ่ะ

จบแล้วจ้า หวังว่าคงถูกใจเพื่อนๆนะ ^_^ อิอิ

ที่มา : http://mrkohkoh.exteen.com/20070423/ssh-server

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เด็ก 11 ขวบได้ปริญญาสาขาฟิสิกส์

ช่วงนี้เด็กกำลังมาแรงนะครับ Moshe Kai Cavalin เป็นลูกครึ่งไต้หวันที่อยู่ในแคลิฟอร์เนีย ตอนนี้อายุได้ 11 ขวบพอดี เด็กวัยประมาณนี้อาจจะกำลังเล่นสนุกหรือตามหาพ่อ แต่เมื่อ 2 ปีก่อน Cavalin สมัครเข้าวิทยาลัย East Los Angeles Community College สาขาฟิสิกส์อวกาศ (Astrophysics) และตอนนี้ก็ได้ดีกรีเรียบร้อยแล้ว

หัวข้อที่ Cavalin สนใจคือ wormholes หรือ “รูหนอน” และเขาอยากพิสูจน์ให้ได้ว่ามันมีอยู่จริง ส่วนอาจารย์ของ Cavalin บอกว่าไม่เคยมีลูกศิษย์ที่เด็กขนาดนี้มาก่อน แถมในวิชาพีชคณิต Cavalin ยังเป็นคนติวเพื่อนร่วมชั้นอายุ 18-20 ก่อนสอบด้วย อาจารย์บอกกับพ่อแม่เด็กว่าความสามารถของ Cavalin ยังมีอีกมากและควรให้เรียนในระดับสูงขึ้น แต่พ่อแม่ของ Cavalin ยังไม่อยากกดดันลูก และพยายามไม่เรียกลูกว่า “อัจฉริยะ”

พ่อแม่ของ Cavalin นั้นไม่เคยตั้งใจส่งลูกไปเรียนระดับวิทยาลัยเมื่ออายุขนาดนี้เลย แต่ตอนที่พาลูกไปเข้าโรงเรียนประถม ไม่มีโรงเรียนไหนรับเพราะว่า Cavalin นั้น “รู้มากกว่าครู” ซะแล้ว พ่อแม่เลยตัดสินใจสอนหนังสือให้ลูกเองที่บ้าน แต่สอนไปสักพักก็เปลี่ยนใจพบว่าส่งไปเรียนวิทยาลัยน่าจะดีกว่า

วิทยาลัยตอนแรกก็ลังเลไม่กล้ารับ เลยให้ Cavalin เรียนเพียง 2 วิชาคือ คณิตศาสตร์กับพละ ซึ่ง Cavalin ได้เกรด A+ ทั้งคู่ เลยได้เรียนวิชาอื่นๆ ต่อ งานอดิเรกของ Cavalin คือศิลปะการป้องกันตัว อยากเป็นดาราหนัง และอยากลงแข่งศิลปะการป้องกันตัวในโอลิมปิกปี 2016

ที่มา http://www.jusci.net/node/999

เป็น CIO ก็รวยได้ ห้าอันดับ CIO เงินดี

CIO หรือ chief information officer นั้นเป็นตำแหน่งที่คนไม่ค่อยสนใจมากเท่ากับ C อื่นๆ อย่าง CEO, CFO หรือ COO แต่เอาเข้าจริงแล้ว รายได้ของ CIO ก็ไม่ด้อยไปกว่าตำแหน่งเหล่านั้นเลย ผมยกรายได้ของ CIO หัาอันดับแรกมาให้ดู เผื่อจะมีใครเปลี่ยนเป้าหมายชีวิตเป็น CIO ขององค์กร!

  1. Randall Mott (HP)
    เงินเดือนรวม 12 เดือน: 690,000 ดอลลาร์ (เดือนละ 2 ล้านบาท)
    รายได้ทั้งหมดต่อปี: 24.65 ล้านดอลลาร์ (840 ล้านบาท)
  2. Robert Willett (Best Buy)
    เงินเดือนรวม 12 เดือน: 821,157 ดอลลาร์ (เดือนละ 2.33 ล้านบาท)
    รายได้ทั้งหมดต่อปี: 9.88 ล้านดอลลาร์ (337 ล้านบาท)
  3. Joseph C. Antonellis (State Street)
    เงินเดือนรวม 12 เดือน: 713,462 ดอลลาร์ (เดือนละ 2 ล้านบาท)
    รายได้ทั้งหมดต่อปี: 8.82 ล้านดอลลาร์ (300 ล้านบาท)
  4. Stephen Squeri (American Express)
    เงินเดือนรวม 12 เดือน: 600,000 ดอลลาร์ (เดือนละ 1.7 ล้านบาท)
    รายได้ทั้งหมดต่อปี: 4.69 ล้านดอลลาร์ (160 ล้านบาท)
  5. Thomas M. Nealon (JC Penney)
    เงินเดือนรวม 12 เดือน: 518,750 ดอลลาร์ (เดือนละ 1.47 ล้านบาท)
    รายได้ทั้งหมดต่อปี: 3.6 ล้านดอลลาร์ (123 ล้านบาท)

ที่มา - BusinessWeek

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คำตอบเกี่ยว คอมพิวเตอร์

1>โปรแกรมระบบปฏิบัติการบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ เราเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร
ตอบ Disk Operating System
2>ในการจัดเก็บข้อมูลในดิสก์จะแบ่งเก็บเป็นกลุ่มที่มีลักษณะอย่างเดียวกัน หรือเกี่ยวกับเรื่องเดียวกันเรียกว่าอะไร
ตอบ ไฟล์
3>บัส (Bus) หมายถึง
ตอบ ถนนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ถ้ายิ่งกว้างหรือมีช่องทางมากเท่าไร การส่งข้อมูลต่อครั้งจะยิ่งเร็วขึ้นหรือทางกายภาพว่า กลุ่มของสายไฟ หรือเส้นทองแดงบนเมนบอร์ด
4>บัส (Bus) มีหน้าที่อะไร
ตอบ ทำหน้าที่บนข้อมูลเฉพาะอย่างหากเครื่องมีบัสแอดเดรส 32 บิต จะมีสายไฟจำนวน 32 เส้น ทำหน้าหน้าที่อ้างตำแหน่ง ข้อมูลในหน่วยความจำ
5>การวัดคุณภาพหน่วยความจำ วัดจากอะไร
ตอบ วัดกันที่ขนาดความจุและความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล
6>จงยกตัวอย่างหน่วยความจำในเครื่องที่นำมาใช้
ตอบ 1>หน่วยความจำปกติ (Conventional Memory)
2>หน่วยความจำสูง (High Memory Area- HMA)
3>หน่วยความจำอัปเปอร์ (Upper Memory Area)
7>หน่วยความจำมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ หน่วยความจำมี 2 ประเภท คือ RAM และ ROM
8>เวลาหน่วงที่เกิดจากรอขอซีพียู เราเรียกว่า
ตอบ ช่วงเวลาการเข้าถึง (Access Time)
9>บัสมีกี่ประเภท
ตอบ 2 ประเภท คือ บัสภายใน (Internal bus) และบัสภายนอก (External bus)
10>การที่หน้าจอกเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ขึ้น "Zero Wait State" หมายความว่า
ตอบ เครื่องนั้นมีการจัดการหรือบริหารหน่วยความจำจนวิ่งเร็วเท่า CPU ทำให้ CPU ไม่ต้องเสียเวลา รอคอยให้ชิป
หน่วยความจำรีเฟรชเสียก่อนจึงจะเข้าไปอ่านหรือเขียนข้อมูลได้อีกครั้ง
11>หน่วยความจำที่อ่านได้อย่างเดียวเรียกว่า
ตอบ ROM (Read-Only Memory)
12>RAM แบ่งเป็นกี่ชนิดอะไรบ้าง
ตอบ 2 ชนิด คือ DRAM และ SRAM
13>คำสั่ง DOS แบ่งเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง
ตอบ 2 คำสั่ง คือ คำสั่งภายในและภายนอก
14>คำสั่ง CLS เป็นคำสั่งภายนอกหรือภายใน
ตอบ ภายใน
15>คำสั่งอะไรที่ทใช้ในการลบแฟ้ม
ตอบ DEL
16>MD คือคำสั่งอะไร
ตอบ เป็นคำสั่งที่ใช้ในการสร้างไดเร็คทอรี่ขึ้นมาใหม่
17>จงยกตัวอย่างของคำสั่งภายนอก
ตอบ SYS, FORMAT, DISKCOPY, MEM, MOVE
18>Batch File คืออะไร
ตอบ เป็นไฟล์ที่เก็บคำสั่งต่าง ๆ เรียกกันเป็นบรรทัด เพื่อให้ดอสอ่านมาทำงานตามลำดับ ทีละคำสั่งตามลำดับก่อนหลัง
19>Burning in หมายความว่า
ตอบ เราสามารถอ่านข้อมูลได้เท่านั้นไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
20>DATA BUS คือ
ตอบ ส่วนที่ทำหน้าที่เชื่อต่อระหว่าง CPU, หน่วยความจำและส่วนประกอบอื่น ๆ ซึ่งอยู่บน Mainboard โดยมีหน้าที่เป็นกลางในการขนถ่ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ
21>นามสกุลของ Batch file คือ
ตอบ .bat
22>Batch file ที่จะถูกนำมาประมวลผลเมื่อเริ่มเปิดเครื่องทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกโปรแกรมต่าง ๆ ให้อัตโนมัติตอนเปิดเครื่อง คือ Batch file อะไร
ตอบ autoexec.bat
23>SHIFT คำสั่งใน Batch file หมายถึงให้ทำอะไร
ตอบ เลื่อนค่าของพารามิเตอร์ % 0 ถึง %9
24>Debug คือ
ตอบ คือ โปรแกรมที่แสดง แก้ไขข้อมูลในหน่วยความจำตลอดจนรีจิสเตอร์
25>C:\ SC A คือตรวจไวรัสใน drive อะไร
ตอบ drive A
26>DEFRAG คือ
ตอบ การจัดเรียงข้อมูบใมนแฟ้มใหม่ ให้แฟ้มต่าง ๆ เก็บข้อมูลไม่กระจายใน Disk
27>คำสั่ง A ในการใช้โปรแกรม Debug คือ
ตอบ ใช้สร้างภาษา Assembly
28>คำสั่ง CALL ใน batch file คือ
ตอบ ใช้เรียก batch file อื่น
29>ถ้าต้องการทำให้บรรทัดใน Batch file เป็นบรรทัด Remark หรือ Comment ต้องใช้คำสั่ง
ตอบ REM
30>SYS ของคำสั่ง DOS คืออะไร
ตอบ ใส่แฟ้มระบบเข้าไปในสื่อเก็บข้อมูลใหม่
31>ถ้าเราต้องการตรวจสอบ BAD SECTOR จะใช้คำสั่งอะไร
ตอบ SCANDISK
32>จงยกตัวอย่างคำสั่งของ DOS ที่เป็นคำสั่งภายใน
ตอบ CLS, DIR, COPY, TYPE, CD, MD
33>รหัส ASCII ตั้งแต่ 0 - 31 ใช้แทน
ตอบ แทนอักขระควบคุม
34>รหัส ASCII ใช้แทนข้อมูลได้กี่ค่า
ตอบ 256 ค่า
35>การที่เราต้องการที่จะลบโปรแกรมใน ROM ทำได้โดย
ตอบ โดยการใช้รังสี Ultraviolet
36>จงยกตัวอย่าง RAM ที่เราใช้กันอยู่ทั่วไป
ตอบ Fast Page Mode RAM (RPM RAM), Extended Data Output RAM
37>Cache Memory ทำหน้าที่
ตอบ เก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่มีการถูกเรียกใช้จากตัว CPU อยู่บ่อย ๆ
38>การที่ข้อมูลที่ CPU ต้องการถูกพบอยู่ใน Cache Memory จะเรียกว่า
ตอบ Cache Hit
39>จากโจทย์ข้อ 38 ถ้าไม่พบจะเรียกว่า
ตอบ Cache Miss
40>การเพิ่มความเร็วในการประมวลผลด้วยวิธีการใส่ processor พิเศษ เรียกว่าอะไร
ตอบ Math Coprocessor
41>อุปกรณ์พื้นฐานที่มีผลโดยตรงต่อคอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วย
ตอบ Register, Memory, Clock, Bus, Cache Memory, Math processor
42>Word size หรือขนาดของ Register คือ
ตอบ เป็นตัวบ่งชี้ว่าในการประมวลผละแต่ละครั้งนั้นคอมพิวเตอร์จะประมวลผลข้อมูลได้ครั้งละเท่าใด
43>รหัส ASCII ตั้งแต่ 0 - 31 ใช้แทน
ตอบ แทนอักขระพิเศษและตัวเลข
44>รูปแบบของรหัส Unicode มีค่าเท่าไหร่
ตอบ 256 รูปแบบ
45>MS - DOS ประกอบด้วยไฟล์หลัก 3 ไฟล์ คือ
ตอบ 1>COMMAND.COM
2>MS-DOS.SYS
3>IO.SYS
46>MS-DOS เป็นของบริษัทใด
ตอบ บริษัทไมโครซอฟต์คอร์ปอเรชั่น
47>ระบบปฏิบัติที่ใช้ในการบูตเครื่องมีกี่วิธีอะไรบ้าง
ตอบ 2 วิธี คือ Cold Boot และ Warm Boot
48>Cool Boot คือ
ตอบ เป็นการ Boot Dos ในขณะที่เครื่องยังปิดอยู่
49>A:\> หมายถึง
ตอบ ระบบเครื่องพร้อมแล้วที่จะรับคำสั่งต่าง ๆ
50>การที่ระบบปฏิบัติการสามารถใช้งานในขณะเดียวกันได้มากกว่า 1 โปรแกรม เรียกว่า
ตอบ มัลติทาสกิ้ง (Multitasking)

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Windows OEM คืออะไร ?

OEM มีหลายความหมายด้วยกัน ซึ่งได้แก่
OEM ย่อมาจาก Origianl Equipment Manufacturer หมายถึงการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดยใช้การผลิตของเรารวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตด้วย มักจะเป็นโรงงานเปิดใหม่ ๆ หรือโรงงานที่ไม่เน้นการสร้างแบรนด์ของตนเอง และโรงงานที่ไม่มีความชำนาญในการออกแบบผลิตภัณฑ์

ODM ย่อมาจาก Original Design Manufactuere หมายถึงการผลิตของโรงงานที่มีรูปแบบการพัฒนาดีไซน์ รูปแบบสินค้าได้เอง และเอาสินค้าเหล่านั้นไปเสนอขายให้ลูกค้าของเค้าอีกทีหนึ่ง มักจะเป็นโรงงานที่พัฒฯมาจาก OEM ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ด้วยดีไซน์ ซึ่งดีไซน์เหล่านี้จะเป็น Exclusive หรือ non exclusive ก็ได้ (อ้าว เจอศัพท์อีกคำล่ะ exclusive design หมายถึง แบบที่ผลิตให้กับลูกค้ารายใดรายหนึ่งเฉพาะเท่านั้น ซึ่งหากเราออกแบบแล้วขายให้กับลูกค้ารายใหญ่ ๆ เค้าก็มักจะขอให้เป็น Exclusive Design เพระไม่ต้องการซ้ำกับใคร ๆ)

OBM ย่อมาจากคำว่า Original Brand Manufacturer หมายถึงการผลิตที่มีการสร้างแบรนด์ของตัวเอง เป็ฯโรงงานที่พัฒนาได้เต็มที่แล้ว ทำให้ไม่ต้องง้อลูกค้ามากนัก ถ้าจะซื้อสินค้า ก็ต้องซื้อภายใต้แบรนด์เราเท่านั้น อันนี้เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกโรงงานครับ

อ้างอิงจาก http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2007/10/B5904553/B5904553.html
และจากความหมายจาก Microsoft Thailand Licensing

สิทธิการใช้งานประเภทติดตั้งมาจากโรงงาน (OEM License) เป็นสิทธิการใช้ซึ่งจำหน่ายให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบคอมพิวเตอร์ สำหรับการติดตั้งไปพร้อมกับการจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ ลูกค้าไม่สามารถขอซื้อสิทธิการใช้งานแบบ OEM แยกต่างหากได้

สิทธิการใช้งานประเภทติดตั้งมาจากโรงงาน (OEM)

* ซอฟต์แวร์แบบ OEM จะถูกติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง PC หรือเซิร์ฟเวอร์ที่จำหน่ายเท่านั้น
* ไม่สามารถย้ายซอฟต์แวร์ OEM จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังเครื่องอื่นได้ แม้จะไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดิมแล้วก็ตาม แต่สิทธิในการใช้ของซอฟต์แวร์แบบ OEM อาจถูกกำหนดใหม่ หากมีการซื้อ Software Assurance เพิ่มเติมภายใน 90 วันหลังจากการซื้อสิทธิแบบ OEM
* ซอฟต์แวร์ถูกจำกัดการใช้ด้วย Product ID Key หรือผ่านการเปิดใช้ทางเว็บหรือทางโทรศัพท์
(โดยปกติจะถูกเปิดใช้งานล่วงหน้าโดยผู้จัดทำระบบ)
* สิทธิแบบ OEM อาจมี Software Assurance ที่ซื้อภายใต้โปรแกรม Volume Licensing

สิทธิการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Desktop แบบเต็มจะจำหน่ายในรูปแบบ FPP หรือ OEM เท่านั้น โดยแบบ OEM จะมีราคาถูกกว่ามาก ส่วนโปรแกรม Volume License จะมีเฉพาะการอัพเกรดระบบปฏิบัติการ Windows Desktop เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ต้องมีสิทธิแบบ OEM หรือ FPP ของ Windows อยู่ก่อนแล้ว จึงจะสามารถอัพเกรดได้

อ้างอิงจาก http://www.microsoft.com/thailand/Licensing/oem.aspx

Custom Search