เมนูหน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

อัตราส่วนภาพ 16:9 หรือ 4:3

ณ วันนี้ผู้เชี่ยวชาญมักจะบอกเราว่าระบบโฮมเธียเตอร์ควรจะเป็นโปรเจคเตอร์ที่ฉายภาพด้วยอัตราส่วน 16:9 จอภาพก็ควรจะป็น 16:9 ด้วย คำพูดนี้อาจถูกต้องสำหรับผู้คนส่วนใหญ่และเห็นได้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าความนิยมในทีวีแบบ 4:3ที่มีมาแต่ดั้งเดิมกำลังจะถูกแทนที่ด้วยทีวีรุ่นใหม่ที่มีขนาด 16:9 แต่นั่นอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับคุณก็ได้ มีโปรเจคเตอร์ 4:3 ในท้องตลาดอยู่จำนวนหนึ่งที่มีความสามารถเหนือกว่าโปรเจคเตอร์ 16:9 แล้วคุณควรจะเลือกโปรเจคเตอร์แบบไหนดี แบบใดละที่เหมาะกับคุณมากที่สุด 4:3 หรือ 16:9 ? คำตอบต้องขึ้นอยู่กับคุณต้องการที่จะจัดการกับการรับชมโฮมเธียเตอร์ของคุณในแบบไหนมากกว่า ดังนั้นก่อนที่จะซื้อเครื่องโปรเจคเตอร์คุณต้องคิดก่อนว่าคุณจะทำยังไงกับอัตราส่วนของภาพจากภาพยนตร์หรือวีดีโอดีวีดีของคุณ

ถ้าคุณยังใหม่กับเรื่องอัตราส่วนภาพเมื่อเราพูดถึง 4:3 หรือ 16:9 นั่นหมายถึงเรากำลังพูดถึงรูปทรงของขนาดภาพที่เราเห็นจากภาพยนตร์หรือวีดีโอดีวีดี หรือที่เรียกว่า “ Aspect Ratio “ เครื่องรับโทรทัศตามบ้านที่เราใช้กันอยู่มีอัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio) 4:3 นั่นหมายความว่าภาพที่เราเห้นจะมีขนาดกว้าง 4 ส่วนและสูง 3 ส่วน เช่นกันในทีวีรุ่นใหม่ HDTV เป็น 16:9 คือมีอัตราส่วนกว้าง 16 ส่วนและสูง 9 ส่วน ดังนั้นเราจึงเห็น HDTV มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าในแนวนอน ความยาวในแนวนอนของ HDTV จะมากกว่าทีวีแบบธรรมดาที่เราใช้กันอยู่

ปัญหาก็คือไม่ว่าจะเป็นทีวีหรือโปรเจคเตอร์ล้วนแล้วแต่มาพร้อมกับอัตราส่วนภาพเฉพาะที่ไม่เป็น 4:3 ก็จะเป็น 16:9 อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ภาพยนตร์หรือวีดีโอดีวีดีที่มีจำหน่ายในท้องตลาดก็จะทำมาด้วยอัตราส่วน (Aspect Ratio)หลายๆขนาดต่างกัน รายการโทรทัศน์หรือภาพยนตร์วีดีโอที่ถูกผลิตด้วยอัตราส่วน 4:3 ซึ่งบางทีจะบอกเป็น “ 1.33 “ (4 หารด้วย 3 = 1.33) และรายการต่างๆหรือภาพยนตร์ที่ผลิตมาสำหรับ HDTV จะเป็นอัตราส่วน 16:9 บางทีก็จะบอกเป็น “ 1.78 “ (16 หารด้วย 9 = 1.78) อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่มีเพียงแค่สองระบบนี้เท่านั้นแต่ยังมีระบบอัตราส่วนภาพต่างๆที่ถูกผลิตขึ้นมาอีกมากมาย ภาพยนตร์ มิวสิกวีดีโอ สิ่งอื่นๆที่บรรจุอยู่ในแผ่นดีวีดีล้วนมาพร้อมกับอัตราส่วนต่างๆกันทั้งสิ้นเช่น 1.33 , 1.78 , 1.85 , 2.00 , 2.35 , 2.4 , 2.5 และอีกมาก ดังนั้นจึงยังไม่มีมาตราฐานที่แน่นอนสำหรับอัตราส่วนของภาพวีดีโอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน นั่นคือไม่ว่าคุณจะใช้โปรเจคเตอร์แบบไหน 4:3 หรือ 16:9 ก็ไม่มีทางที่เครื่องโปรเจคเตอร์ของคุณจะสามารถแสดงภาพให้เหมาะสมกับขนาดอัตราส่วนภาพที่มากับวีดีโอในรูปแบบต่างๆได้เลย ยังไงคุณก็ต้องรับชมภาพในแบบ Native อยู่ดี ดังนั้นถ้าไม่มีวิธีที่สมบูรณ์แบบแล้ววิธีไหนละที่จะเป็นวิธีที่ดีและถูกต้องที่สุดสำหรับการติดตั้งระบบการชมภาพของคุณ ? คำตอบง่ายๆคือ ไม่ว่าโปรเจคเตอร์หรือภาพที่จอจะเป็นขนาดไหน มีสองวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการกับระบบการชมภาพในโฮมเธียเตอร์ของคุณ คุณสามารถได้ภาพแบบ 4:3 จากโปรเจคเตอร์แบบ 4:3 หรือ เลือกใช้โปรเจคเตอร์แบบ 16:9 เพื่อให้ได้ภาพ 16:9 ทั้งสองแบบต่างก็มีข้อดีและข้อเสียซึ่งคุณต้องชั่งน้ำหนักดูว่าจะใช้แบบไหน ไม่มีแบบไหนดีกว่ามันเป็นแค่ความแตกต่างเท่านั้น

ถ้า HDTV หรือ widescreen DVD คือการชมภาพในแบบที่คุณชอบดูแล้วสบายตาก็ไม่ต้องไปคิดมากว่าภาพในแบบ 4:3 จะออกมาเป็นยังไง ใช้ความชอบของคุณเป็นเครื่องตัดสินง่ายที่สุด 16:9 โปรเจคเตอร์ฉายภาพบนจอ 16:9 ดีที่สุดแล้วสำหรับชมภาพแบบ widescreen รายการโทรทัศน์ใหม่ๆสำหรับ HDTV ในบางประเทศก็มีการผลิตมาในแบบ 16:9 เพื่อให้พอดีกับจอโทรทัศน์แบบ 16:9 ซึ่งก็ให้ภาพออกมาดี ข้อดีก็คือคุณจะได้รับชมรายละเอียดทั้งหมดของภาพรวมทั้งอัธรสของการแสดงในแบบ widescreen ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามควรคิดไว้เสมอว่าเมื่อภาพยนตร์ต่างๆถูกนำมาทำเป็นดีวีดีก็จะมีเรื่องของขนาดภาพเข้ามาเกี่ยวข้องให้ปวดหัวแน่นอน มีภาพยนตร์หลายๆเรื่องที่มีขนาดกว้างกว่า 16:9 แบบปรกติเช่น The lord of the Rings , American Beauty , Star wars/Phantom Menace , Seabiscuit ทั้งหมดมาพร้อมกับอัตราส่วน 2.35:1 ไม่ใช่ 1.78:1 ดังนั้นเมื่อรับชมภาพยนตร์เหล่านี้ด้วยจอ 16:9 คุณจะได้ขอบดำที่ด้านบนและด้านล่างของจอภาพเพิ่มขึ้นมา ขอบดำที่เกิดขึ้นจะมีขนาดประมาณ 12 เปอร์เซนต์ของความสูงของภาพ ขอบดำแม้จะไม่ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับการใช้จอภาพขนาด 4:3 แต่มันก็จะอยู่ที่นั่นตลอดการรับชมของเรา

การ ที่จะทำให้ขอบส่วนเกินนี้ไม่เป็นที่รำคาญต่อสายตาได้นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับ ว่าเครื่องโปรเจคเตอร์สามารถฉายภาพได้มืดระดับไหนและก็ขึ้นอยู่กับว่าจอภาพ ชนิดที่คุณใช้ด้วย จอภาพสีขาวทั่วๆไปจะทำให้เห็นขอบส่วนเกินค่อนข้างชัดเจน จอภาพชนิด High Contrast Gray จะ ทำให้ขอบส่วนเกินแลดูมืดลงด้วยจอภาพชนิดนี้และโปรเจคเตอร์ที่มีค่าคอนทรา สสูงๆจะทำให้ขอบส่วนเกินนี้ไม่เป็นที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนนักตามที่มันควรจะ เป็น

อย่างไรก็ตามถ้าคุณเป็นคนที่พิถีพิถันต้องการอะไรที่สมบูรณ์แบบและเรื่องเงินก็ไม่เป็นปัญญาสำหรับคุณ คุณคงต้องสั่งอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคพิเศษเพื่อทำให้จอแคบลงตามแนวนอนเมื่อต้องการฉายภาพยนตร์ที่มีขนาดกว้างกว่า 16:9 ปรกติ มัน เป็นอุปกรณ์เสริมที่สั่งซื้อได้พร้อมกับจอรับภาพที่มีลักษณะเป็นแผ่นสีดำ ซึ่งสามารถเปิดหรือปิดขอบด้านบนและด้านล่างของจอภาพเพื่อเปลี่ยนขนาดของ พื้นที่การมองภาพบนจอภาพได้ อุปกรณ์นี้ใช้เพื่อสร้างกรอบสีดำรอบๆภาพสามารถปรับขนาดได้ไม่ว่าภาพยนตร์ที่คุณรับชมจะมีอัตราส่วนแบบใด แต่ด้วยจอรับภาพรุ่นใหม่และโปรเจคเตอร์ที่มีค่าคอนทราสสูงขอบดำส่วนเกินจะมืดมากขึ้นและไม่ค่อยเป็นที่สังเกตุมากนัก

การฉายภาพ 4:3 ด้วยระบบที่เป็นแบบ 16:9

A:ภาพที่ได้จากการฉายโดยไม่มีการปรับแต่งใดๆจะมีขอบดำที่ด้านข้างของภาพทั้งสองด้าน

-------------------------

B:การฉายภาพโดยใช้ฟังชันปรับขนาดที่มีมาพร้อมกับเครื่องโปรเจคเตอร์จะทำการยืดขนาดภาพ 4:3 ออกไปตามแนวนอนเพื่อให้พอดีกับพื้นที่การมองภาพแบบ 16:9 ในการปรับภาพลักษณะนี้ภาพของคนจะแลดูเตี้ยลงและอ้วนผิดปรกติ จริงอยู่ที่มันทำให้มีพื้นที่การมองภาพในแบบ 16:9 แต่ก็ทำให้รูปร่างของวัตถุผิดเพี้ยนไปซึ่งหลายๆคนก็รับไม่ได้เหมือนกัน

----------------------------

C:การใช้การซูมภาพ 4:3 แทน ที่จะใช้การยืดขนาดคือการใช้วิธีง่ายๆโดยการตัดส่วนที่อยู่ด้านบนกับด้าน ล่างของภาพออกและแสดงภาพเฉพาะบริเวณตรงกลางของภาพที่มีขนาดพอดีกับอัตราส่วน 16:9 ภาพที่ได้จะมีขนาดใหญ่กว่าปรกติเหมือนกับเวลาเรามองดูใกล้ๆจอภาพ

----------------------------

D:โปรเจคเตอร์ 16:9 รุ่นใหม่ๆจะมาพร้อมด้วยการแก้ปัญหาในเรื่องอัตราส่วนของภาพเมื่อใช้ชมภาพที่เป็น 4:3 ซึ่งจะทำให้ภาพมีขนาด 16:9 โดยมีความผิดเพี้ยนของภาพน้อยที่สุด กระบวน การนี้จะยังคงสภาพอัตราส่วนดั้งเดิมบริเวณตรงกลางของภาพเอาไว้และทำการยืด ขยายส่วนที่อยู่ด้านข้างออกเพื่อให้ได้พื้นที่การมองภาพขนาดพอดีกับจอ 16:9 บาง ทีวิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วในการที่จะได้มาซึ่งภาพที่เต็มเฟรม และยังใช้ในการแก้ปัญหาของการกระจายสัญญาณโทรทัศน์หรือการส่งสัญญาณทีวีใน ส่วนขอบของภาพที่ไม่ค่อยบรรจุส่วนสำคัญของเนื้อหาไว้มากเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามการตัดส่วนขอบของภาพออกยังต้องทำอย่างรอบคอบเป็นพิเศษ ในการชมภาพหรือภาพยนตร์เก่าๆในแบบ 16:9 ที่มีขอบดำด้านข้างและยังเป็นวิธีเดียวที่จะรับชมภาพให้ได้ในแบบที่ผู้กำกับภาพยนตร์ต้องการให้เราเห็น

------------------------------

โปรเจคเตอร์ 16:9 เหมาะสมกับระบบ HDTV และ widescreen DVD แต่มันก็มีขอบดำที่ด้านบนและด้านล่างเพิ่มขึ้นมาเมื่อรับชมภาพยนตร์ที่มีความกว้างมากกว่า 16:9 อยู่ดี ทั้งยังต้องการกระบวนการพิเศษในการปรับแต่งอีกเมื่อต้องการใช้กับระบบภาพแบบ 4:3 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและหลงไหลในระบบโฮมเธียเตอร์ ผลที่ได้จากการชมภาพยนตร์ด้วยระบบ 16:9 นั้นช่างน่าตื่นเต้นและประทับใจมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการรับชมภาพด้วยระบบที่เป็น 4:3 ในทางกลับกันถ้าคุณเป็นกังวนกับข้อเสียที่ได้จากระบบ 16:9 เมื่อใช้ชมภาพแบบ 4:3 หรือไม่ต้องการที่จะต้องมาปรับแต่งระบบดังที่กล่าวมาด้านบนแล้วละก็ คุณก็ควรที่จะเลือกใช้โปรเจคเตอร์แบบ 4:3

ที่มา : http://acs8369.blogspot.com/2007/02/169-43.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Custom Search